วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2553

สร้างรายได้ด้วยตัวเอง กับ ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม

"ให้ปีนเขาสูงหรือข้ามทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลสักเพียงใด ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลนัก"

ที่กล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่า คนส่วนใหญ่ต้องการกำไรในชีวิตที่เกิดจากผลพวงของความสำเร็จ แต่ ปัญหาอยู่ที่คนเรามักจะไม่รู้ว่าความสำเร็จหน้าตาเป็นอย่างไร อะไรคือความสำเร็จ สุดท้ายก็ไป ทึกทักเอาเองว่าความสำเร็จของคนนั้นของคนนี้เป็นตัวอย่างของความ สำเร็จด้านโน้นด้านนี้ ทำให้ คนในสังคมต่างตะเกียกตะกายเดินทางไปสู่ความสำเร็จที่เขาว่ากัน เหมือนหนังหรือนิยายหลายเรื่อง ที่เกี่ยวกับการเดินทางไปค้นหาขุมสมบัติที่ ต้องแย่งชิงแผนที่การเดินทางต้องทำลายคู่แข่งที่อาจจะ มาแย่งส่วนแบ่งของ สมบัติที่วาดฝันเอาไว้ ต้องเอาชีวิตเข้าแลกแม้ไม่รู้ว่าสมบัตินั้นมีจริงหรือไม่ มากน้อยเพียงใด สุดท้ายเมื่อไปถึงกรุสมบัติ สิ่งที่ได้คือความสุขเพียงหนึ่งหรือสองนาที หลังจากนั้น ก็เกิดอาเพศถ้ำถล่มบ้าง สมบัติกลายเป็นหินบ้าง หรือบางคนก็หนีรอดมาได้ก็เหลือแค่ตัวเท่านั้น

เหมือนกับชีวิตคนหลาย คนที่ต้องดิ้นรนเพื่อนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จที่เขาว่ากัน บางครั้งต้องแลก ด้วยการอดหลับอดนอน บางครั้งต้องแลกมาด้วยความเครียด บางครั้งต้องแลกมาด้วยความอบอุ่น ของครอบครัว บางครั้งต้องแลกมาด้วยหนี้สิน บางครั้งต้องแลกมาด้วยมิตรภาพของเพื่อน ฯลฯ สุดท้ายเมื่อไปถึงความสำเร็จที่อยากได้ที่ทุกคนยอมรับ แต่ตัวเองกลับบริโภคความสำเร็จนั้นได้เพียง ช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นต้องชดใช้ชดเชยความสำเร็จนั้นด้วยการเจ็บป่วย ครอบครัวแตกแยก ความเครียด สังคมไม่ยอมรับ จิตใจที่ไม่ปกติ หรือบางคนก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ดังเช่นเรื่องราวของ คนหลายคนในสังคมที่เป็นอุทาหรณ์ให้ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเราเอง

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตของเราเหมือนกับหนัง นิยายหรือชีวิตจริงของคนหลายคนจึงอยากจะ แนะนำว่า คำว่า “ความสำเร็จในชีวิต” นั้นมิได้ หมายถึง ความร่ำรวย ความมีชื่อเสียง มีการศึกษาสูง มีหน้าที่การงานดี มีเกียรติยศชื่อเสียงในสังคมเท่านั้น แต่…ความสำเร็จในชีวิตนั้นหมายถึงทุกสิ่งทุก อย่างที่เกิดในชีวิตเรา เช่น ความสำเร็จในการมีชีวิตอยู่ เพราะเรายังสามารถหายใจเข้าออกเป็นปกติ
1.ความสำเร็จในการกิน เพราะเรากินอาหารได้ทุกประเภทและยังรู้รสความ อร่อยอยู่
2.ความสำเร็จด้านธรรมะ เพราะเรายังคงคิดดี มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์อยู่

3.ความสำเร็จด้านสุขภาพ เพราะเรายังมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงอยู่

4.ความสำเร็จด้านความคิด เพราะเรายังสามารถคิดโน่นคิดนี่ได้เป็นอย่างดี

5.ความสำเร็จด้านการกระทำ เพราะเรายังสามารถทำในสิ่งที่เราอยากทำได้อยู่
6.ความสำเร็จด้านครอบครัว เพราะเรายังมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่

7.ความสำเร็จด้านสังคม เพราะเรายังมีเพื่อนและมิตรที่ดีอยู่

การที่จะทำให้เรามีชีวิตที่ประสบแต่ความสำเร็จ มีเทคนิคและหาวิธีการคิด ดังนี้

เริ่มตั้งเป้าหมายชีวิตจากเรื่องเล็กๆ
พราะเป้าหมายเล็กๆ น้อยๆ มักจะมีโอกาสสำเร็จได้ง่ายกว่า เมื่อเรามีความสำเร็จเกิดขึ้นตลอดเวลาทุกเมื่อเชื่อวัน เราก็จะมีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น การตั้งเป้าหมายเรื่องเล็กๆ เปรียบเสมือนเรากำลังหาเช้ากินค่ำ เพราะจิตใจของเราได้บริโภคความสำเร็จทุกวัน

เลิกมองเป้าหมายสุดท้าย แต่หันมาตั้งเป้าหมายที่กิจกรรมที่จะต้องทำแทน
การตั้งเป้าหมายสุดท้ายบางครั้งอาจจะทำให้เราท้อแท้เสียก่อน โดยเฉพาะตอนที่เริ่มลงมือทำ เช่นเราตั้งเป้าหมายว่าจะวิ่งรอบสนามฟุตบอล 5 รอบ พอวิ่งไปได้สัก 50 เมตร เราก็รู้สึกว่าเหลืออีกตั้งไกล ให้ตั้งเป้าหมายเสียใหม่ว่าเราจะวิ่งทีละ 3 ก้าว สมาธิของเราก็จะถูกดึงมาที่การนับก้าว นับ 1, 2,3 ไปเรื่อยๆ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดความกังวลกับเป้าหมายสุดท้ายลงได้ และเรารู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จในการนับก้าวเพียง 3 ก้าวอยู่ตลอดเวลา และถ้ารับการประสบความสำเร็จในการนับก้าวเพียง 3 ก้าวตลอดระยะทางของการวิ่งรอบสนามฟุตบอล 5 รอบ รับรองได้ว่าเป้าหมายใหญ่หรือเป้าหมายสุดท้ายที่เราตั้งไว้ก็ประสบความ สำเร็จโดยอัตโนมัติถ้าเราทำแล้วแต่ไม่ได้ผลดังที่คาดหวัง ก็ให้คิดว่าสำเร็จในการที่ได้ทำ ก็ให้คิดเสียว่าอย่างน้อยๆ เราก็มีความสำเร็จที่ได้ทำสิ่งนั้น ดีกว่าคนอีกหลายคนที่ยังไม่ทำในสิ่งที่เราได้ และที่สำคัญคือเราจะได้มีโอกาสไปทำสิ่งอื่นในชีวิตที่เรายังไม่ได้ทำอีกตั้ง มากมาย หรือเราอาจจะคิดใหม่ว่าถ้าทำแล้วไม่ได้ผล แสดงว่าโอกาสแห่งความสำเร็จยังรอเราอยู่ ยิ่งเราทำแล้วไม่สำเร็จมากเท่าไร ก็แสดงให้เห็นว่าหนทางสู่ความสำเร็จก็จะมีมากขึ้น เหมือนคนเดินหลงทางมามากเท่าไร โอกาสที่จะไปถูกทางก็ย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น เพราะโอกาสลองผิดเริ่มน้อยลงๆ ไปเรื่อยๆ

ถ้าผลที่ได้รับต่ำกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ ให้คิดว่าเราประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว
ขอให้คิดว่าถ้าเราบรรลุเป้าหมายตั้งแต่ครั้งแรก เราจะได้ความสำเร็จเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และให้คิดว่าผลที่ได้ในครั้งแรกนั้นเป็นความสำเร็จระดับหนึ่งแล้ว คิดต่อไปอีกว่าเป้าหมายที่เหลืออยู่จะสร้างโอกาสให้เราประสบความสำเร็จได้ อีกครั้งหนึ่ง ถ้ายังทำแล้วยังไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้อีกก็ให้คิดเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเป้าหมายใหญ่ที่ตั้งไว้ครั้งแรกประสบความสำเร็จ การที่เราประสบความสำเร็จครั้งละน้อยๆ แต่หลายครั้ง ไม่แน่ว่าผลรวมของความสำเร็จหลายครั้งรวมกันอาจจะมีมากกว่าหรือดีกว่าความ สำเร็จของคนที่ทำครั้งเดียวแล้วประสบความสำเร็จเลยก็ได้ ตัวอย่างเช่นสมจิตร จงจอหอ นักมวยเหรียญทองโอลิมปิกที่สะสมความสำเร็จในการไปชกมวยโอลิมปิกยาวนานถึง 12 ปี ผลพวงของความสำเร็จที่ละเล็กทีละน้อยที่สะสมไว้ได้ช่วยให้สมจิตรมีโอกาสได้เงินรางวัลมากกว่านักชกที่เคยได้เหรียญทองโอลิมปิกก่อนหน้านี้ มีชื่อเสียงมากกว่าและมีโอกาสใช้เงินไปนานกว่าคนที่ประสบความสำเร็จไปก่อน หน้านี้ ไม่แน่ว่าถ้าสมจิตรได้เหรียญทองโอลิมปิกตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปชกโอลิมปิก ป่านนี้เขาอาจจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลยก็ได้และอาจจะมีภูมิคุ้มกันชีวิตน้อย กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงอาหารว่างทาง สมองให้ท่านผู้อ่านนำไปคิดต่อ อะไรที่เป็นประโยชน์ก็นำไปใช้อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองก็อาจจะส่งข้อมูลนี้ต่อไปให้ผู้อื่น เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตอื่นบ้างก็ได้ไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านทุกคนคงจะมีชีวิตที่ประสบแต่ความสำเร็จตลอด เวลาและตลอดไป

ขอบคุณข้อมูลจากเพื่อนฉันค่ะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น